เราจะเลือกหน้ากากเชื่อมใช้งานยังไงดีน้า?

     อุปกรณ์อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญต่อผู้เชื่อมก็คือ “หน้ากากเชื่อม” เพราะช่วยป้องกันประกายไฟจากการเชื่อมและยังช่วยปกป้องดวงตาจากอันตรายที่เกิดจากรังสีอินฟราเรดและรังสีอัลตราไวโอเลตอีกด้วย ปัจจุบันในท้องตลาดมีจำหน่ายหน้ากากเชื่อมอยู่ 2 ประเภทคือ หน้ากากเชื่อมรุ่นธรรมดา และหน้ากากเชื่อมรุ่นปรับแสงอัตโนมัติ  

1. หน้ากากเชื่อมรุ่นธรรมดา

     หน้ากากเชื่อมประเภทนี้จะถูกติดตั้งด้วยกระจกบังแสง พบเจอได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งตัวกระจกนี้จะผลิตตามมาตรฐานเคลือบด้วยฟิลเตอร์ ช่วยปกป้องผู้เชื่อมจากรังสีอินฟราเรดและรังสีอัลตราไวโอเลตขณะทำการเชื่อม

ข้อดี

• ราคาถูกกว่าหน้ากากเชื่อมแบบปรับแสงอัตโนมัติ
• ช่วยปกป้องใบหน้าและหัวเชื่อมได้ดี
• กระจกหาเปลี่ยนได้ง่ายและราคาไม่แพง
• ไม่ต้องใช้แบตเตอรี่และไม่มีการควบคุมทางเทคนิคใดๆ
• กระจกเคลือบสารป้องกันรังสีอินฟราเรดและยูวี

ข้อเสีย

• ไม่เหมาะกับการทำงานในพื้นที่แคบ เพราะกระจกปรับได้แค่หงายขึ้นหรือลงเท่านั้น
• การขยับหน้ากากเข้าออก เพื่อปรับมุมมองอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สะดวก
• ต้องใช้มือในการปรับแสง หากต้องการลดระกับแสง
• ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

2. หน้ากากเชื่อมรุ่นปรับแสงอัตโนมัติ

     เป็นประเภทหน้ากากที่ถูกติดตั้งกระจกกรองแสงแบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์ชี้วัดระดับแสงเรียกว่า “เซ็นเซอร์อาร์ค” ที่ช่วยจำแนกสีได้ 8 ถึง 13 เฉดสีที่จำเป็นและไม่จำเป็นต้องใช้ได้ หมวกเชื่อมที่มีคุณภาพจะมีอาร์คเซ็นเซอร์ติดอยู่ประมาณ 3 ถึง 6 ตัว เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ตัวหน้ากากได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นได้ชัดเจนผ่านเลนส์แสง

คุณสมบัติของหน้ากากเชื่อมรุ่นปรับแสงอัตโนมัติ

1. การควบคุมการทำงาน

ผู้ใช้งานสามารถกำหนดการตั้งค่าความไวแสงและค่าอื่นๆ เพื่อให้เหมาะกับกาารใช้งาน และให้ความสะดวกสบายมากที่สุด ในบางรุ่นยังเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานที่ปล่อยความเย็นออกมาเมื่อได้รับความร้อนขณะทำงานเชื่อมด้วย

2. สะดวกสบายและมีน้ำหนักเบา

ขณะสวมใส่หน้ากากจะให้ความกระชับรับกับศีรษะของผู้ใช้งานอย่างพอดี อีกทั้งด้านในยังบุด้วยวัสดุที่มีความนุ่มเพื่อช่วยรองรับแรงกระแทกที่โหนกแก้ม คอ และกระดูกสันหลังของคุณ

3. ตัวกรองแสง UV หรือ IR อัตโนมัติ

กลไกที่อยู่เบื้องหลังหน้ากากเชื่อมเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อปกป้องแสงอาร์คที่สว่างจ้า ฟิลเตอร์โพลาไรซ์จะมืดลงโดยอัตโนมัติขึ้นอยู่กับพลังการแทรกซึมของรังสี UV และ IR ที่ปล่อยออกมา เพื่อการปกป้องดวงตาที่ดีที่สุด

ข้อดี

• มุมการมองเห็นจะไม่ถูกกีดขวางแม้หน้ากากจะคว่ำอยู่ก็ตาม
• ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนกระจกปรับแสงอยู่บ่อยครั้ง ช่วยให้ทำงานอย่างต่อเนื่อง
• ปกป้องใบหน้าจากรังสีที่เป็นอันตราย
• มาพร้อมระบบกรองแสงอัตโนมัติ ช่วยปรับความมืดให้เหมาะกับระดับแสงของประกายไฟที่ปล่อยออกมา
• มีหน้าจอ LCD ช่วยปรับความไวแสงและการกำหนดค่าระดับเฉดสีได้ด้วยตนเอง 

ข้อเสีย

• ตัวหน้ากากและอะไหล่มีราคาสูงกว่ารุ่นธรรมดา
• จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่อยู่เสมอ เมื่อหมดสภาพการใช้งาน
• ระดับการมองเห็นจะดูมืดในครั้งแรกที่อาร์คเมื่อเกิดประกายไฟ

     
     สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกหน้ากากเชื่อมคือการศึกษาข้อดีและข้อเสียของหน้ากากแต่ละประเภท เพื่อเลือกซื้อสิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งาน T.N.C.MACHIENTOOLS ขอเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับหน้ากากที่ดีที่สุด คุณภาพดี อายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อให้ผู้ใช้ทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน