สายเชื่อมไฟฟ้า YASUMA คืออะไร?

     คือสายที่เป็นตัวกลางนำกระเเสไฟฟ้า (ARC) จากตู้เชื่อมไปยังอุปกรณ์ต่างๆ โดยสายเชื่อมจะแบ่งออกเป็น 2 สีคือ สีดำและสีส้ม โดยที่สีดำจะใช้ต่อเข้ากับคีมจับสายดินไว้สำหรับจับสิ่งที่ต้องการเชื่อม (GROUND CLAMP) ส่วนสีส้มจะใช้ต่อเข้ากับคีมจับลวดเชื่อม (ELETRODE HOLDER)

จุดเด่นสายเชื่อมสีดำ YASUMA (RUBBER WELDING CABLE)

     1. สามารถทนอุณหภูมิอย่างต่อเนื่องได้ตั้งแต่ 65-70 องศาเซลเซียส

     2. ผลิตจากยางธรรมชาติที่มีความหนาพิเศษ มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการหักงอและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

     3. สามารถทนต่อสารเคมีต่างๆได้ดี

สายเชื่อมสีดำเหมาะสำหรับงานแบบไหน?

     เนื่องจากจุดเด่นสายเชื่อมสีดำนั้นผลิตจากยางธรรมชาติมีทีความหนาพิเศษและมีความยืดหยุ่น ทนต่อการหักงอสูง ส่งผลให้ทนต่อการกระชาก การเสียดสีกับพื้นที่มีความขรุขระได้ดี จึงเหมาะสมกับงานประเภทสายพานอุตสาหกรรม, อุตสาหกรรมยานยนต์, อู่ต่อเรือ และงานเชื่อมเครื่องจักร ที่อาจจะมีการลากกับพื้นหรือมีสิ่งของเครื่องจักรการทับสาย เป็นต้น

จุดเด่นสายเชื่อมสีส้ม YASUMA (PVC WELDING CABLE)

     1. ส่วนประกอบที่สำคัญของสายเชื่อมสีส้มคือ คลอริเนตโพลิเอทิลลีน (Chlorinated Polyethylene CPE) ทำให้มีความทนทานต่อการใช้กระแสไฟสูง มีความยืดหยุนต่อการกดทับ การลากกับพื้นผิวขรุขระ และรอยขีดข่วนได้ดี

     2. สามารถทนอุณหภูมิอย่างต่อเนื่องได้ตั้งแต่ 70-90 องศาเซลเซียส

     3. สายเชื่อมสีส้มจะมีลักษณะผิวด้านนอกค่อนข้างมันวาวและแข็งแรงกว่าสายเชื่อมสีดำ

     4. ด้วยคุณสมบัติของ CPE จึงมีอายุการใช้งานอย่างยาวนาน ยากต่อการละลายของขดลวด และมีความคงทนต่อสารเคมี

สายเชื่อมสีส้มเหมาะสำหรับงานแบบไหน?

     ด้วยคุณสมบัติข้างต้น จึงทำให้สายเชื่อมส้มเหมาะสมกับการใช้งานหนัก ได้แก่ การก่อโครงสร้างต่างๆ, สิ่งปลุกสร้างใต้ดิน, อุตสาหกรรมเหมืองแร่, การสร้างหรือเชื่อมรถไฟ, สถานีจ่ายพลังงาน และการเชื่อมไฟฟ้าในโรงงานขนาดใหญ่ เป็นต้น

สามารถดูตารางขนาดและความหนาจำนวนเส้นทองแดงของสายเชื่อม YASUMA ทั้งสีดำและสีส้มได้จากด้านล่าง

ข้อควรระวังการใช้สายเชื่อม

     1. ควรมีการเตรียมพร้อมความปลอดภัยไว้ตลอดเวลา เช่น การวางถังดับเพลิงหรืออุปกรณ์ดับเพลิงไว้ในบริเวณที่หยิบใช้งานสะดวก หรือสวมอุปกรณ์ป้องกันตัวไว้เวลาเชื่อมงานต่างๆ เช่น ชุดหนัง ถุงมือหนัง หรือหน้ากากกันกันสะเก็ดไฟ เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ (สามารถดูอุปกรณ์ได้ที่ http://tncmachinetools.lnwshop.com/b/6)

     2. ตรวจเช็กสภาพตู้เชื่อม สายเชื่อมและอุปกรณ์ต่างๆให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมสำหรับการใช้งาน 100% เพื่อลดความเสี่ยงต่อการไฟดูดหรือไฟรั่วนั่นเอง

     3. จัดเก็บตู้เชื่อม สายเชื่อม หรืออุปกรณ์มในการเชื่อมให้อยู่ในที่แห้งและมิดชิด หลีกเลี่ยงการไว้ในที่อับชื้นหรือเสี่ยงต่อการโดนน้ำ เพราะอาจจะทำให้เสื่อมสภาพเร็วและไม่ปลอดภัย